สำหรับท่านที่กำลังวางแผนจะสร้างบ้านใหม่ การวางแผนเรื่อง “ถังเก็บน้ำ” ถือเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่ควรมีการเตรียมการไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อสำรองน้ำใช้ในกรณีฉุกเฉิน ปัจจุบันจะมีอยู่ 2 ทางเลือกทั้งแบบติดตั้งบนดินและฝังลงใต้ดิน โดยแต่ละแบบก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป แล้วแบบไหนจะดีกับบ้านของคุณมากกว่ากัน Awii House บริษัทรับสร้างบ้าน … เฉพาะคุณ มีคำตอบมาให้แล้ว พร้อมสูตรคำนวณปริมาณน้ำเพื่อใช้รองรับความต้องการอย่างเพียงพอสำหรับทุกคนในครอบครัว
ถังเก็บน้ำบนดินเป็นถังเก็บน้ำที่ติดตั้งอยู่บนพื้นดิน โดยจะมีการเสริมฐานรองรับน้ำหนักด้วยเสาเข็มสั้นและเทฐานคอนกรีตตามขนาดของถังน้ำเพื่อป้องกันการทรุดตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากดินบริเวณนั้นมีโอกาสทรุดตัวหรือเปียกอยู่ตลอดเวลา
ชนิดของถังเก็บน้ำบนดิน
เป็นถังเก็บน้ำที่ผลิตจากสแตนเลส ขึ้นชื่อในเรื่องของความทนทาน แข็งแรง ใช้งานได้ยาวนาน มักมาพร้อมกับขาตั้งและช่องระบายน้ำบริเวณก้นถัง ทำให้ล้างทำความสะอาดภายในได้ง่าย นอกจากนี้ตัวถังยังมีความทึบแสง จึงไม่ก่อให้เกิดตะไคร่น้ำ แต่เหมาะสำหรับกักเก็บน้ำประปาเท่านั้น ไม่ควรเก็บน้ำกร่อย น้ำบาดาล หรือน้ำที่ปนเปื้อนสารเคมี เนื่องจากไม่ทนต่อกรดและด่าง และควรเลือกถังเก็บน้ำสแตนเลสที่ได้มาตรฐานเพื่อป้องกันการเกิดสนิมบริเวณรอยต่อและรอยเชื่อม ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อการใช้งานได้
เป็นถังเก็บน้ำถังเก็บน้ำที่ทำจากวัสดุไฟเบอร์กลาส ซึ่งมักมีความแข็งแรง ทนทาน และมีความยืดหยุ่นค่อนข้างสูง สามารถรองรับแรงอัดได้ดี มีอายุการใช้งานยาวนาน และไม่เป็นสนิม ใช้บรรจุน้ำได้หลายชนิด เหมาะกับการเก็บสำรองน้ำในปริมาณมาก ๆ แต่ในบางครั้งจะพบว่ามีกลิ่นปะปนมากับน้ำที่ใช้งาน ซึ่งเกิดจากเรซิ่นที่ใช้เคลือบผิว และไม่แนะนำใช้วางตั้งไว้กลางแจ้ง เนื่องจากอาจทำให้วัสดุแตกร้าวได้ง่าย ยิ่งไปกว่านั้น หากใช้สินค้าไม่ได้มาตรฐาน ใยไฟเบอร์กลาสมีโอกาสหลุดออกมาปนเปื้อนกับน้ำได้ อีกทั้งยังทำความสะอาดได้ยากกว่าถังเก็บน้ำประเภทอื่น เพราะมีพื้นผิวที่ไม่เรียบเนียนนั่นเอง
ถังเก็บน้ำพลาสติกหรือถังน้ำโพลิเมอร์ชนิดไม่ทึบแสงผลิตจากวัสดุ PE จึงมีราคาถูกกว่าถังเก็บน้ำชนิดอื่น แต่ก็มีอายุการใช้งานสั้น และมักซีดจางเมื่อใช้ไปนาน ๆ แม้จะไม่มีปัญหาเรื่องสนิม แต่ก็ไม่ควรวางไว้กลางแจ้งเนื่องจากคุณสมบัติที่ไม่ทึบแสง แสงแดดจึงสามารถลอดผ่านตัวถังเข้าไปได้ จึงอาจทำให้เกิดตะไคร่น้ำภายในตัวถัง รวมถึงเกิดเมือกลื่น ส่งผลให้ถังมีกลิ่น ถังน้ำบนดินประเภทนี้จึงเหมาะกับการใช้งานชั่วคราวมากกว่า
เป็นถังเก็บน้ำรุ่นใหม่ที่เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ผลิตจากวัสดุชนิดพิเศษ ได้แก่ เอลิเซอร์ (Elixer) และอินโนว่า (INNOVA) เพื่อแก้ไขปัญหาที่พบในถังเก็บน้ำชนิดพลาสติกทั่วไป ข้อดีของถังเก็บน้ำประเภทนี้ คือ ทนทานต่อแสง UV เนื่องจากใช้นวัตกรรมผสานสีเข้ากับโพลิเมอร์ สามารถใช้งานกลางแจ้งได้โดยไม่ทำให้สีซีด ไม่กรอบง่าย อีกทั้งมีความทึบแสง จึงไม่เป็นตะไคร่น้ำ ทำให้น้ำที่กักเก็บไว้มีความสะอาดและปลอดภัยกว่า ไม่ต้องกังวลเรื่องสารปนเปื้อน สามารถใช้บรรจุน้ำดื่มได้ อีกทั้งมีรูปทรงให้เลือกหลากหลายแบบ
ถังเก็บน้ำใต้ดินเป็นถังเก็บน้ำที่ติดตั้งโดยฝังอยู่ในดิน ซึ่งจะมีการเทคานรับน้ำหนักหรือลงเสาเข็มสั้นและเทฐานคอนกรีตเพื่อรองรับถังเก็บน้ำ ซึ่งจะช่วยป้องกันถังเก็บน้ำทรุดตัว เป็นสาเหตุทำให้ท่อแตกหรือรั่วตามมา
เป็นการสร้างบล็อกเพื่อเก็บน้ำโดยการเทคอนกรีต สามารถขึ้นรูปได้ตามความต้องการของผู้ใช้งาน ส่วนใหญ่นิยมเทเป็นบ่อสี่เหลี่ยมมีฝาปิด มีความคงทนแข็งแรง เก็บสำรองน้ำได้มาก ไม่ก่อให้เกิดการปนเปื้อนและสามารถเลือกขนาดได้ตามต้องการ แต่ก็มีโอกาสรั่วซึมได้ง่าย จึงควรทำระบบกันซึมร่วมด้วย รวมถึงควรเลือกผลิตภัณฑ์กันซึมชนิดที่ไม่เป็นพิษต่อร่างกายและลดการสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรีย และควรหมั่นทำความสะอาดเป็นประจำ
เป็นถังเก็บน้ำใต้ดินที่ผลิตจากพลาสติกคุณภาพสูงเพื่อรองรับแรงกดเมื่อฝังอยู่ใต้ดิน มีข้อดีคือแข็งแรง ทนต่อแรงกระแทก ตัวถังไม่รั่วซึมง่าย สะอาด ปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดการปนเปื้อน ไม่เป็นสนิม ไม่ต้องกังวลเรื่องสารพิษจากเคมีภัณฑ์ใช้กันรั่วซึม มีอายุการใช้งานค่อนข้างนาน มีขนาดให้เลือกหลากหลาย สามารถใช้กักเก็บน้ำได้ทั้งการบริโภคและอุปโภค แต่ดูแลรักษายากและมีราคาสูง
ถังเก็บน้ำบนดิน สามารถดูแลรักษาง่ายทั้งในเรื่องของการทำความสะอาด และการซ่อมแซม เพราะมองเห็นได้ชัดเจน นอกจากนี้ยังประหยัดงบประมาณในการติดตั้งและดูแลรักษา แต่ก็แลกมาด้วยพื้นที่ในการติดตั้ง อีกทั้งอุณหภูมิของน้ำอาจเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพอากาศ ส่วนถังเก็บน้ำใต้ดินจะเหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่จำกัด และต้องการความเป็นระเบียบเรียบร้อย เพราะเป็นการฝังลงใต้ดินจึงทำให้บ้านดูสวยงามกว่า อุณหภูมิของน้ำเย็นสบาย ไม่อมความร้อนเหมือนถังบนดิน แต่มีขั้นตอนในการติดตั้งที่ยุ่งยากกว่าถังเก็บน้ำบนดิน เนื่องจากต้องฝังฐานรากลงใต้ดิน อีกทั้งยังดูแลรักษายากกว่า อย่างกรณีที่มีปัญหารั่วซึมก็สังเกตและแก้ไขได้ยาก รวมถึงมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าด้วย ดังนั้น การเลือกถังเก็บน้ำจึงขึ้นอยู่กับความจำเป็นและความชอบของผู้เป็นเจ้าของบ้านว่าจะตัดสินใจเลือกใช้แบบไหน
การคำนวณปริมาณการใช้น้ำให้เหมาะสมกับการสำรองสำหรับใช้งานและเลือกซื้อถังขนาดเก็บน้ำได้อย่างเหมาะสมสามารถทำได้ดังนี้
“จำนวนสมาชิกในบ้าน (คน) x 200 (ลิตร) = ขนาดของถังเก็บน้ำที่แนะนำ (ลิตร)”
ตัวอย่าง หากสมาชิกในบ้านมีจำนวน 3 คน
จะได้ 3 (คน) x 200 (ลิตร) = 600 ลิตร
เพราะฉะนั้น หากต้องการสำรองน้ำ 1 วัน ควรใช้ถังเก็บน้ำ ที่ความจุ 600 ลิตรขึ้นไป
หากต้องการสำรองน้ำ 2 วัน ควรใช้ถังเก็บน้ำ ที่ความจุ 1,200 ลิตรขึ้นไป
ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้ “ถังเก็บน้ำชนิดบนดิน” หรือ “ถังเก็บน้ำชนิดใต้ดิน” สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องความสะอาดของคุณภาพน้ำ ควรเจาะจงเลือกใช้วัสดุที่มีความปลอดภัยและทนทาน เพราะในการติดตั้งถังเก็บนานแต่ละครั้งย่อมอยู่คู่กับบ้านของคุณไปอีกหลายปี
ติดต่อสอบถามข้อมูล บริการรับออกแบบสร้างบ้านกับ AWII House ได้ที่
อีเมล: info.support@awiihouse.com
เว็บไซต์: awiihouse.com
โทร. 0 2026 3213 และ 09 5881 7887