นวัตกรรมสำหรับบ้านยุคใหม่ เป็นโจทย์สำหรับบริษัทที่รับสร้างบ้านจะต้องทำการบ้าน เพื่อให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว โดยปัจจุบันกระแสความนิยมคือการสร้างบ้านให้มีรูปแบบที่ยั่งยืนเพื่อรองรับการมาถึงของทุกอนาคต ที่รวมไปถึงความต้องการของผู้อยู่อาศัย ซึ่งนอกจากนวัตกรรมแล้ว ยังมีความต้องการให้บ้านสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันเพื่อการใช้งานได้หลากหลาย จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจเป็นอย่างมากว่า บ้านที่มีนวัตกรรมที่ยั่งยืนจะเป็นอย่างไร ค้นหาคำตอบได้ในบทความนี้
บริษัทรับสร้างบ้านที่มีความเชี่ยวชาญได้ตีความหมายของบ้านแห่งอนาคตเอาไว้ว่า คือบ้านที่จะไม่ตกยุค ไม่ว่าจะกี่ปี นวัตกรรมของบ้านจะรองรับการอยู่อาศัยและสร้างความสุขให้แก่สมาชิกในครอบครัวได้ ด้วยการวางรากฐานของบ้านในวันนี้ ให้มีนวัตกรรมพร้อมสำหรับรองรับการเปลี่ยนแปลงในทุก ๆ วัน นั่นก็คือ
บ้านที่แข็งแรงคือพื้นฐานของการต่อยอดในอนาคต การสร้างบ้านโดยส่วนใหญ่จะคำนึงถึงความปลอดภัยภายในบ้านที่แข็งแรงมาเป็นอันดับแรก ซึ่งในปัจจุบันมีความนิยมใช่แผ่นคอนกรีตเสริมเหล็กแบบสำเร็จรูป (Precast) เป็นอย่างมาก ซึ่งนอกจากจะช่วยให้บ้านมีความแข็งแรง สามารถต้านแรงสั่นสะเทือนได้แล้ว ภายในบ้านยังมีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง เพราะไม่มีเสากลางบ้าน ช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันบ้านได้ตามใจ
การรับสร้างบ้านนั้น ความสวยงามและความโดดเด่นของบ้าน คือสิ่งที่ผู้อยู่อาศัยต้องการ และเมื่อบ้านอยู่ในยุคที่คนรักสุขภาพมากขึ้น การออกแบบจึงเป็นมากกว่าสถาปัตยกรรม เพราะต้องดูแลทั้งสุขภาพที่แข็งแรงของผู้อาศัย และต้องเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้นรูปแบบบ้านยุคใหม่จึงมีการคำนวณทิศทางของลมและแสง เพื่อค้นหาตำแหน่งการติดตั้งประตู หน้าต่าง และช่องแสง สำหรับการรับพลังงานธรรมชาติ และก่อให้เกิดการหมุนเวียนของอากาศ ลดการสะสมของฝุ่นละอองสาเหตุแห่งการเกิดโรค
นอกจากการคำนวณทางสถาปัตยกรรมเพื่อการอยู่อาศัยที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติแล้ว ภายในบ้านควรติดตั้งเทคโนโลยี Smart Airflow เพื่อสุขภาพภายใต้มลพิษอย่างฝุ่น PM 2.5 โดยระบบนี้จะสามารถฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ ยับยั้งเชื้อโรค ช่วยป้องกันฝุ่น และช่วยลดอุณหภูมิ ป้องกันแบคทีเรียภายในบ้าน เพื่อความแข็งแรงที่นำมาซึ่งความสุขในการอยู่อาศัยที่ยั่งยืน
หลายคนรู้จักระบบ Smart Home กันแล้ว แต่การรับสร้างบ้าน บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญจะเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อเป็นการวางรากฐานให้แก่ลูกค้า โดยระบบบ้านอัจฉริยะที่มีประโยชน์ต่อผู้อยู่อาศัยควรประกอบด้วย ระบบควบคุมการเปิด-ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้า และน้ำประปาภายในบ้าน, ระบบควบคุมแผงโซลาร์เซลล์ให้ใช้งานได้ดังใจ, ระบบควบคุมระบบรักษาความปลอดภัยภายในบ้าน และระบบการปรับเปลี่ยนและการตั้งค่าเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยระบบทั้งหมดจะสั่งงานและควบคุมผ่านแอปพลิเคชันที่สามารถอัปเดตเวอร์ชันให้ทันสมัยได้
การรับสร้างบ้านด้วยนวัตกรรมที่ยั่งยืนเหล่านี้ จะช่วยให้บ้านสามารถรองรับทุกไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงได้ดี ด้วยรูปแบบบ้านที่แข็งแรง มีความสวยทันสมัย ก่อสร้างด้วยวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมการออกแบบเพื่อการอยู่อาศัยที่ช่วยให้มีสุขภาพที่แข็งแรง อีกทั้งยังเป็นบ้านที่มีระบบอัจฉริยะคอยอำนวยความสะดวก เป็นการออกแบบที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แห่งอนาคตได้เป็นอย่างดี