7 เมษายน 2021 - Uncategorized

สร้างบ้านรองรับอนาคตด้วยระบบไฟฟ้า 3 เฟส

สร้างบ้านรองรับอนาคตด้วยระบบไฟฟ้า 3 เฟส

เพราะอนาคตเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ การเตรียมความพร้อมจึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เช่นเดียวกับการสร้างบ้าน บ้านที่ดีไม่ใช่เป็นเพียงแค่พื้นที่เพื่อการพักผ่อนเท่านั้น แต่ยังต้องสามารถรองรับทุกย่างก้าวในทุกจังหวะชีวิตได้อย่างลงตัวเพื่อให้สามารถตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยในทุกช่วงเวลาได้อย่างราบรื่น เมื่อต้องสร้างบ้านสักหลังหนึ่ง เจ้าของบ้านจึงควรทุ่มเทใส่ใจในรายละเอียดเพื่อทำให้บ้านเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความพิเศษ ซึ่งนอกจากรูปลักษณ์ พื้นที่ใช้สอย และฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ละเลยไม่ได้เลยก็คือระบบต่าง ๆ ภายในบ้าน โดยเฉพาะระบบไฟฟ้า ซึ่งเป็นอีกหนึ่งรายละเอียดสำคัญที่ต้องมีการวางแผนให้ดีตั้งแต่ในขั้นตอนออกแบบและก่อสร้าง เพราะระบบไฟฟ้านั้นไม่ใช่เพียงแค่การคำนวณจำนวนปลั๊กไฟหรือวางตำแหน่งปลั๊กไฟเท่านั้น แต่ยังต้องมีการพิจารณาเลือกระบบไฟฟ้าที่สามารถรองรับปริมาณการใช้ไฟในบ้านได้อย่างไม่มีขาดตกบกพร่องเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตอย่างปัญหาไฟกระชาก ไฟตก ไฟดับ หรือไฟฟ้าลัดวงจร แล้วคุณจะทราบได้อย่างไรว่าควรเลือกใช้ระบบไฟบ้านแบบไหนถึงจะเหมาะสมที่สุด AWII House มีคำตอบ

ปลั๊กไฟ

ระบบไฟฟ้า 1 เฟส VS ระบบไฟฟ้า 3 เฟส เลือกแบบไหนให้เหมาะกับบ้านของคุณ?

ระบบไฟฟ้าในประเทศไทยเราหลัก ๆ แล้ว จะแบ่งออกเป็น 2 แบบด้วยกัน คือ

ระบบไฟฟ้าแบบ 1 เฟสคืออะไร?

เป็นระบบไฟฟ้าที่นิยมใช้กันตามบ้านพักอาศัยตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงขนาดกลาง รวมถึงทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม บ้านจัดสรร ห้องเช่า หรือห้องชุดที่มีผู้อยู่อาศัย 1-3 คน หรือคาดการณ์ว่าจะใช้ไฟฟ้าไม่มาก มีเพียงแค่เครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปในชีวิตประจำวันจำนวนหนึ่ง ซึ่งระบบไฟ 1 เฟสนี้จะมีกำลังไฟที่รองรับการใช้งานที่หลากหลายและครอบคลุมระบบแสงสว่างและเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ อาทิ

  • หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ 36 วัตต์ จำนวน 10-20 ชุด
  • พัดลม 100 วัตต์ จำนวน 1-4 เครื่อง
  • โทรทัศน์ 250 วัตต์ จำนวน 1-3 เครื่อง
  • เครื่องซักผ้า 3,000 วัตต์ จำนวน 1 เครื่อง
  • เครื่องปรับอากาศ 12,000-20,000 BTU จำนวน 1-3 เครื่อง

ซึ่งหากบ้านของคุณมีการใช้ระบบแสงสว่างและเครื่องใช้ไฟฟ้าในลักษณะนี้ ระบบไฟฟ้า 1 เฟสก็เพียงพอต่อความต้องการ แม้ข้อดีของการใช้ไฟฟ้า 1 เฟส คือ มีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งและค่าอุปกรณ์ไม่สูงมาก แต่ถ้ามองในระยะยาวแล้ว อาจจะยังคุ้มค่าเท่าที่ควรเนื่องจากเจ้าของบ้านจะต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเรื่องค่าไฟฟ้ามากพอสมควร

ระบบไฟฟ้าแบบ 3 เฟสคืออะไร?

ระบบไฟฟ้าแบบ 3 เฟสจะให้แรงดันไฟฟ้ามากกว่าระบบ 1 เฟส จึงเหมาะสำหรับอาคารพาณิชย์ ออฟฟิศ โรงงาน หรือสถานที่ที่ต้องใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีกำลังวัตต์สูง เช่น เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า ตู้เย็น จุดชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า เครื่องจักร ฯลฯ ในเวลาเดียวกัน แต่ก็ใช่ว่าระบบไฟ 3 เฟสจะใช้งานภายในบ้านไม่ได้ ก่อนอื่น เรามาทำความเข้าใจก่อนว่าการนำระบบไฟฟ้า 3 เฟสเข้ามาใช้ภายในบ้านนั้นไม่ใช่การติดตั้งระบบไฟ 3 เฟสตรง ๆ แต่เป็นการนำไฟฟ้า 3 เฟสนั้นมาแบ่งแยกออกเป็นระบบไฟฟ้า 1 เฟส 3 ชุด แล้วกระจายติดตั้งตามจุดต่าง ๆ ที่มีการใช้ไฟฟ้าเพื่อเฉลี่ยใช้ไฟในแต่ละจุดเพื่อช่วยให้โหลดอุปกรณ์ไฟฟ้าสามารถทำงานพร้อม ๆ กันได้โดยไม่เป็นภาระกับเฟสอื่น ๆ แม้จะมีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งค่อนข้างสูง แต่ในระยะยาวจะช่วยประหยัดค่าไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากประเทศไทยเรามีการคิดคำนวณค่าไฟแบบอัตราก้าวหน้า กล่าวง่าย ๆ คือ ยิ่งมีการใช้ไฟมากเท่าไร ก็ยิ่งเสียค่าไฟฟ้าในอัตราที่สูงขึ้นเป็นขั้นบันได ดังนั้น การกระจายการใช้ไฟฟ้าออกเป็น 3 ส่วนดังกล่าว จึงทำให้การใช้ไฟในแต่ละส่วนน้อยลง และทำให้ประหยัดค่าไฟขึ้นนั่นเอง บ้านที่ติดตั้งระบบไฟฟ้าแบบ 3 เฟสจึงควรเป็นบ้านหรืออาคารที่ค่อนข้างใหญ่ มีการใช้ไฟฟ้าหลายจุดและเป็นปริมาณมากจึงจะคุ้มค่า

คนซ่อมหม้อแปลงไฟฟ้า

ระบบไฟฟ้า 1 เฟส VS ระบบไฟฟ้า 3 เฟส เลือกแบบไหนดี?

การตัดสินใจเลือกใช้ระบบไฟฟ้า 1 เฟส หรือ 3 เฟสนั้นขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้ไฟฟ้า หากเป็นบ้านเรือนทั่วไปก็สามารถใช้ระบบไฟฟ้า 1 เฟสได้อย่างสบายใจ แต่หากมีการใช้ไฟฟ้ามากกว่าบ้านทั่วไปหรือคาดว่าจะมีการใช้ไฟฟ้ามากขึ้นในอนาคต การใช้ระบบไฟฟ้า 3 เฟสย่อมตอบโจทย์การใช้งานได้มากกว่า อย่างไรก็ตาม ในการติดตั้งระบบไฟฟ้า 3 เฟสจำเป็นต้องใช้ช่างไฟฟ้าหรือวิศวกรไฟฟ้าผู้ชำนาญการในการ Load Balance เพื่อให้สามารถควบคุมไฟฟ้าเฟสต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมถึงจะใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยประหยัดค่าไฟได้จริง

ดังนั้น เบื้องต้นเจ้าของบ้านจึงควรทำการคำนวณปริมาณการใช้ไฟฟ้าอย่างละเอียด โดยต้องพิจารณาให้เหมาะสมกับจำนวนสมาชิกภายในบ้าน ชนิดของเครื่องใช้ไฟฟ้า และจำนวนเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการใช้งานในปัจจุบัน และทางที่ดีคือการคิดเผื่อในอนาคตด้วยเพื่อให้มีปริมาณไฟฟ้าเพียงพอต่อความต้องการ ใช้งานไฟฟ้าได้อย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ เพราะหากมีการเพิ่มจำนวนสมาชิกหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้กำลังไฟมากในภายหลังโดยไม่ได้วางแผนรองรับไว้ก่อน ระบบไฟฟ้า 1 เฟสก็อาจไม่เพียงพอ และต้องเปลี่ยนมาใช้ระบบไฟ 3 เฟสในท้ายที่สุด ซึ่งย่อมตามมาด้วยขั้นตอนและงานเอกสารที่ยุ่งยาก ตลอดจนค่าใช้จ่ายอย่างค่าติดตั้งและค่าประกันการใช้ไฟฟ้าที่ค่อนข้างสูงตามเงื่อนไขการใช้งานนั้น ๆ ซึ่งในการเลือกระบบไฟให้เหมาะสมกับบ้าน เจ้าของบ้านเองก็สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญอย่างวิศวกรไฟฟ้า ช่างไฟฟ้า หรือบริษัทรับสร้างบ้านได้โดยตรง

 

บริการรับสร้างบ้านรองรับอนาคตด้วยไฟฟ้า 3 เฟส

AWII House รับสร้างบ้านเฉพาะในแบบคุณ พร้อมตอบโจทย์ของบ้านทางเลือกใหม่ด้วยการสร้างบ้านและออกแบบบ้านเชิงนวัตกรรมในสไตล์ที่ทันสมัย ตรงตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย โดยทีมงานสถาปนิกและวิศวกรมืออาชีพ บริการงานเรื่องบ้านครบวงจรตั้งแต่งานออกแบบสถาปัตยกรรม แบบวิศวกรรม โครงสร้าง ยื่นเรื่องขออนุญาตก่อสร้าง ดำเนินการด้านสินเชื่อ พร้อมคำนวณและออกแบบระบบไฟฟ้า น้ำประปา สุขาภิบาลให้เหมาะสมกับการใช้งานทั้งในปัจจุบันและอนาคต เชื่อมต่อการทำงานของทุกส่วนไว้ในฐานข้อมูลกลางฐานเดียวด้วยระบบออกแบบ 3 มิติที่เรียกว่า BIM (Building Information Modeling) ซึ่งสามารถลดทอนขั้นตอนการทำงานที่ซับซ้อนให้กระชับรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สมบูรณ์แบบในทุกมิติ ลงตัวทั้งความสวยงาม อยู่สบาย มั่นคง แข็งแรงอย่างยาวนาน พร้อมแพ็กเกจ AWII Care ซึ่งเป็นบริการดูแลซ่อมบำรุง ต่อเติม เป็นบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่มอบให้กับท่านลูกค้าที่สร้างบ้านกับ AWII House เท่านั้นเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกและไม่ให้ท่านลูกค้าต้องเผชิญกับปัญหาจุกจิกกวนใจกับการหาช่างในอนาคต

 

Website: awiihouse.com

Tel: +66 2 026 3213, +66 95 881 7887

Email: INFO.SUPPORT@AWIIHOUSE.COM

More from journals