เพราะบ้านในฝันไม่ใช่แค่บ้านที่มีความสมบูรณ์ในงานโครงสร้าง งานสถาปัตยกรรม งานระบบ และฟังก์ชันการใช้งานเท่านั้น แต่ยังควรเป็นบ้านที่ “อยู่สบาย” สามารถรองรับการทำกิจกรรมและการผ่อนคลายได้ทุกรูปแบบอย่างลงตัว ซึ่งการออกแบบบ้านให้อยู่สบายนี้เป็นหัวใจสำคัญประการหนึ่งในการสร้างบ้านใหม่ แต่หลายท่านอาจมองข้ามไป ดังนั้น วันนี้เราจึงจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ “สภาวะอยู่สบาย” ของบ้านกัน
ลองนึกถึงความรู้สึกขณะยืนอยู่ริมทะเล แม้จะมีลมพัดผ่าน แต่เรากลับรู้สึกไม่สบายตัว หรือในบางครั้งที่นั่งเล่นอยู่ในห้องนอน เปิดแอร์แล้ว แต่กลับรู้สึกคันตัวยุบยิบ เพราะผิวแห้ง หรือแม้กระทั่งช่วงก่อนฝนตก ทั้งที่มีลมพัด อากาศก็ไม่ร้อน แต่ก็ยังไม่สบายตัว เหล่านี้คือตัวอย่างของความไม่สมดุลในปัจจัยที่ทำให้บ้านอยู่สบาย ดังนั้น “บ้านอยู่สบาย” จึงไม่ได้หมายถึงอากาศเย็น ๆ เท่านั้น แต่ครอบคลุมถึงปัจจัยทั้งในแง่อุณหภูมิ ความชื้นสัมพัทธ์ ความเร็วลม และการแผ่ความร้อนจากสิ่งแวดล้อม ซึ่งควรมีความสัมพันธ์กัน จึงจะทำให้บ้านอยู่สบายอย่างแท้จริง ซึ่งเจ้าของบ้านทุกท่านก็สามารถทำให้บ้านในฝันเป็นบ้านที่อยู่สบายได้ด้วยหลักสำคัญดังนี้
เพราะเมืองไทยมีอากาศร้อนแทบจะตลอดปี การมีบ้านที่มีกลไกป้องกันความร้อนจะช่วยให้บ้านอยู่สบายได้เป็นอย่างดี ซึ่งก็สามารถทำได้หลายวิธี เริ่มต้นตั้งแต่การลดความร้อนจากหลังคา ซึ่งเป็นส่วนที่ได้รับแสงแดดและความร้อนมากที่สุด เพราะฉะนั้นหากเราช่วยคลายความร้อนหรือสะท้อนความร้อนออกไปจากหลังคาบ้านได้ ก็จะช่วยให้อุณหภูมิภายในบ้านลดลงได้บางส่วน สำหรับวิธีลดความร้อนหลังคาสามารถทำได้หลายรูปแบบ อาทิ การเลือกใช้หลังคาสีอ่อน การติดสปริงเกอร์ช่วยพรมน้ำบนหลังคา การติดตั้งฉนวนกันความร้อนบริเวณโถงหลังคา เป็นต้น สำหรับบ้านที่มีระบบฝ้าชายคา ซึ่งเป็นแผ่นฝ้าที่อยู่ภายนอกบ้านทำหน้าที่ปิดช่องว่างระหว่างหลังคาบ้านกับตัวบ้านนั้น สามารถลดความร้อนได้ด้วยการเลือกใช้ฝ้าชายคาที่มีรูระบายอากาศแทนฝ้าทึบแบบเดิม ๆ ซึ่งจะสามารถช่วยระบายความร้อนที่กักอยู่ใต้โถงหลังคา ทำให้บ้านเย็นขึ้น เสริมด้วยการเลือกใช้ระบบผนังจากอิฐมวลเบา ซึ่งมีคุณสมบัติในการเป็นฉนวนกันความร้อนที่ดีกว่าอิฐมอญ เนื่องจากเนื้อของอิฐมวลเบาจะมีรูพรุน จึงมีคุณสมบัติในการคายความร้อนออกได้ดีกว่า ทำให้ห้องเย็นสบาย ยิ่งเมื่อติดตั้งร่วมกับฉนวนกันความร้อนก็จะช่วยให้บ้านสามารถรักษาความเย็นได้ดี ช่วยลดการสะสมความร้อนในห้องได้อย่างชัดเจน และช่วยกันเสียงจากภายนอก และเก็บเสียงจากภายในห้องได้ดีอีกด้วย
บ้านที่อากาศถ่ายเทได้ไม่ดี นอกจากจะทำให้อากาศภายในร้อนอบอ้าวแล้ว ยังอาจนำไปสู่ปัญหาเรื่องความอับชื้นและเชื้อราที่ส่งผลต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัยได้ การถ่ายเทอากาศหรือระบายอากาศจึงครอบคลุมทั้งการระบายความร้อนที่อยู่ในตัวบ้าน ทำให้อุณหภูมิลดลง และการปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในให้ปลอดโปร่ง หายใจได้สะดวก ในส่วนนี้สามารถทำตั้งแต่การวางผังบ้าน อย่างการสร้างบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้าน Awii House จะมีการส่งทีมงานสถาปนิกและวิศวกรลงพื้นที่สำรวจสภาพแวดล้อมตั้งแต่ทิศทางแดด ลม ระดับถนน ระดับพื้นดิน ฯลฯ เพื่อใช้ในการวางผังบ้านและออกแบบบ้านให้เหมาะสมกับพื้นที่และบริบทโดยรอบ ซึ่งสามารถกำหนดสภาวะอยู่สบายของบ้านได้ในระดับหนึ่ง โดยปกติแล้วเพื่อให้ได้แสงที่ดี่ ลมที่ดี อากาศถ่ายเท หมุนเวียนเข้าออกได้สะดวก บ้านควรหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ทิศเหนือ และทิศใต้เพื่อการรับลม และหลีกเลี่ยงการหันหน้าทางทิศตะวันตก เนื่องจากเป็นทิศที่รับแสงอาทิตย์เต็มที่ อาจส่งผลทำให้มีความร้อนสะสมในบ้านมาก นอกจากนี้ ยังสามารถติดตั้งตัวช่วยอย่างช่องระบายลมใต้หลังคา พัดลมดูดอากาศ ช่องลมเหนือประตูและหน้าต่าง พัดลมเพดาน โดยเฉพาะสำหรับบ้านที่มีหน้าต่างน้อยหรือมีข้อจำกัดในด้านอื่น ๆ ก็จะช่วยเร่งกลไกการระบายอากาศและความร้อนออกจากตัวบ้านได้อย่างรวดเร็ว ทำให้บ้านมีอากาศถ่ายเทตลอดเวลาแม้จะปิดบ้านไว้ตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังช่วยลดการสะสมเชื้อโรคและความอับชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การปลูกต้นไม้ไว้รอบบ้าน ไม่เพียงช่วยให้ภูมิทัศน์สวยงาม มีชีวิตชีวา น่ามองเท่านั้น แต่ต้นไม้ยังช่วยบังแสงและช่วยกรองฝุ่นละออง ทำให้บริเวณบ้านเย็นลงและสดชื่นขึ้น ในการปลูกต้นไม้เพื่อบังแดดนั้นสามารถเลือกต้นไม้ที่มีความสูง 10-12 เมตรมาปลูกไว้ทางทิศใต้ ส่วนทิศตะวันตก อาจเลือกต้นไม้สูง 16-18 เมตรขึ้นไปก็จะช่วยในการบังแสงและให้ร่มเงาได้เป็นอย่างดี สำหรับบ้านไหนที่มีพื้นที่น้อย อาจใช้เป็นสวนแนวตั้งหรือไม้กระถางแบบแขวนก็ได้เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม หากพอมีพื้นเหลือ อาจตกแต่งสวนหรือรอบบ้านเพิ่มเติมด้วยองค์ประกอบที่เป็นน้ำเพื่อช่วยให้บ้านเย็นขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสระน้ำ บ่อเลี้ยงปลา น้ำพุ หรือสวนน้ำตก โดยเมื่อมีลมพัด ลมก็จะหอบเอาความเย็นจากน้ำเข้าสู่ตัวบ้าน ช่วยเปลี่ยนอากาศร้อน ๆ ให้เย็นขึ้นได้ วิธีนี้ยังช่วยประหยัดพลังงาน ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ต้องทำงานหนัก เพราะอุณหภูมิภายในลดลง แต่จะต้องวางอยู่ในทิศทางที่ถูกต้อง ทิศที่เหมาะสมที่สุดในการวางตำแหน่งบ่อน้ำ ได้แก่ ทิศใต้ เพราะเป็นทิศทางลมประจำฤดูร้อน ไม่นิยมวางทางทิศเหนือ เพราะเป็นทิศอับลม จะลมมีแค่ 3 เดือนตอนหน้าหนาว และที่สำคัญที่สุดคือควรหลีกเลี่ยงทิศตะวันออกหรือทิศตะวันตกของตัวบ้านเพื่อป้องกันแสงสะท้อนจากผิวน้ำเข้าสู่ตัวบ้าน รบกวนสายตาของผู้อยู่อาศัยนั่นเอง
จะเห็นได้ว่าบ้านที่อยู่สบายนั้นไม่ได้เกิดจากปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งเท่านั้น แต่เกิดจากความสัมพันธ์กันของปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งการทำให้บ้านอยู่สบายนั้นสามารถเริ่มได้ตั้งแต่ขั้นตอนการ “สร้างบ้านใหม่” เพื่อให้บ้านในฝันของคุณเป็นพื้นที่แห่งความสุข อยู่สบาย สามารถพักผ่อนร่างกาย และผ่อนคลายความรู้สึกได้อย่างสมบูรณ์แบบ
Awii House บริษัทรับสร้างบ้าน … “เฉพาะคุณ” ยินดีให้คำแนะนำและคำปรึกษาในการออกแบบบ้าน สร้างบ้านที่ใช่สำหรับคุณภายใต้โซลูชั่น One By One Design เปลี่ยน “บ้านในฝัน” ให้เป็น “พื้นที่แห่งความสุข” ที่จับต้องได้ด้วยบริการออกแบบฟังก์ชันการใช้งานใหม่ทั้งหมดตามพฤติกรรมการอยู่อาศัยจริง เนรมิตพื้นที่ในฝันด้วยการร่วมมือกันระหว่างทีมงานสถาปนิก ทีมงานวิศวกร และทีมงานก่อสร้าง พร้อมตอบโจทย์ของบ้านทางเลือกใหม่ด้วยการสร้างบ้านและออกแบบบ้านเชิงนวัตกรรมในสไตล์ที่ทันสมัย ทำให้บ้านอยู่สบาย ลงตัวในทุกมิติ
ติดต่อสอบถามข้อมูล บริการรับออกแบบสร้างบ้านกับ AWII House ได้ที่
อีเมล: info.support@awiihouse.com
เว็บไซต์: awiihouse.com
โทร. 0 2026 3213 และ 09 5881 7887