การแพร่ระบาดของโรคร้ายทำให้บ้านกลายเป็นพื้นที่ที่ทุกคนในครอบครัวต่างต้องใช้ร่วมกันในการทำกิจกรรมต่าง ๆ บ้านจึงกลายเป็นพื้นที่ที่เราต้องให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ เพราะในแต่ละวัน เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเรานำเอาเชื้อโรคเข้าสู่บ้านมากน้อยเพียงใด แต่คงไม่ดีแน่หากเราปล่อยให้บ้านกลายเป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรกต่าง ๆ เพราะหากเป็นเช่นนั้น ไม่ว่าเราจะป้องกันตัวเองดีอย่างไร เราก็อาจไม่มีทางรอดพ้นเงื้อมมือของโรคร้ายและปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ไปได้ ดังนั้น วิธีทำบ้านให้เป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยที่สุดคือการทำบ้านให้ปลอดเชื้อด้วย 5 วิธีฆ่าเชื้อภายในบ้าน ปกป้องคุณจากเชื้อไวรัสและเชื้อโรค
เพราะการทำความสะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ทั่วไปอาจยังไม่เพียงพอ หากต้องการกำจัดเชื้อไวรัสให้หมดจด ควรเลือกใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อไวรัสได้ ซึ่งมักมีระบุอยู่ที่ฉลากของผลิตภัณฑ์ และควรเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัย โดยสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคให้เหมาะสมกับงานทำความสะอาด เช่น น้ำยาฆ่าเชื้อโรคในห้องน้ำ น้ำยาฆ่าเชื้อโรคสำหรับเช็ดถูพื้น แผ่นเช็ดฆ่าเชื้อโรคสำหรับพื้นผิวต่าง ๆ หรือแม้แต่น้ำยาซักผ้า สำหรับเคล็ดลับการทำความสะอาดให้บ้านปราศจากเชื้อโรค นอกจากบริเวณพื้นแล้ว ยังควรเช็ดทำความสะอาดจุดสัมผัสต่าง ๆ เช่น ลูกบิดประตู กลอนประตู รีโมท ก๊อกน้ำ สวิตช์ไฟ ฯลฯ ซึ่งควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดให้เหมาะกับพื้นผิวแต่ละประเภท และไม่แนะนำให้นำน้ำยาหลาย ๆ ชนิดมาผสมกัน เพราะอาจทำให้ประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคลดลงได้
เทคโนโลยีที่ทันสมัยทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านบางชนิดมีฟังก์ชันการใช้งานในการฆ่าเชื้อโรคได้ ดังนั้น หากจำเป็นต้องเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าในช่วงนี้ควรเลือกรุ่นที่มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรคได้เพื่อช่วยให้ทุกคนในบ้านรู้สึกมั่นใจและสบายใจเมื่อต้องสัมผัสหรือใช้สิ่งของต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ในครัว เสื้อผ้า หรือแม้แต่อากาศที่ต้องสูดเข้าปอดตลอดเวลา อาทิ เครื่องซักอบผ้าที่บางรุ่นสามารถอบผ้า พร้อมฆ่าเชื้อโรคได้ เครื่องล้างจานบางรุ่นที่มีโปรแกรมล้างแบบ Intensive เพื่อสุขอนามัยที่ดี เครื่องฟอกอากาศที่สามารถฆ่าได้ทั้งเชื้อโรค เชื้อรา ไข้หวัด และยังใช้ได้ทั้งในในบ้านและในรถ หรือจะเป็นตู้อบ UV ที่สามารถใช้อบข้าวของเครื่องใช้โดยใช้แสง UV-C ที่สามารถทำลายเชื้อโรคได้ เป็นต้น
โอโซน (O3) คือ ก๊าซออกซิเจนในสถานะพิเศษที่มีโครงสร้าง 3 อะตอม สำหรับการอบโอโซนภายในบ้านจะใช้เครื่องพ่นโอโซน ซึ่งจะปล่อยก๊าซโอโซนไปจับกับโมเลกุลของสารปนเปื้อนเพื่อทำการย่อยสลายและทำลายเชื้อโดยการเปลี่ยนโครงสร้างของสารนั้น ๆ จนทำให้เชื้อโรค เชื้อไวรัส และแบคทีเรียสลายไป ซึ่งหลังจากทำปฏิกิริยาดังกล่าว โอโซนจะแปรสภาพกลับเป็นก๊าซออกซิเจนภายใน 1-3 ชั่วโมง ข้อดีการอบโอโซน คือ จะช่วยให้เชื้อไวรัสตายทั้งหมด ไม่ทิ้งสารตกค้าง จึงไม่ก่อให้เกิดอันตรายหรือส่งผลกระทบใด ๆ ต่อมนุษย์ สัตว์ และสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังช่วยเติมความสดชื่น ลดกลิ่นอับในห้องได้อีกด้วย ส่วนขั้นตอนก็ไม่ยุ่งยาก ไม่จำเป็นต้องเก็บห้องเพื่อเตรียมอบโอโซน สามารถทำได้บ่อยเท่าที่ต้องการในราคาที่ย่อมเยา ใช้เวลาเพียง 1-3 ชั่วโมงเท่านั้น อีกทั้งสามารถใช้งานห้องนั้น ๆ ได้ทันที
เป็นการฆ่าเชื้อโรคโดยการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อด้วยเครื่องพ่นละอองฝอยหรือเครื่องพ่นหมอก มักใช้น้ำยาฆ่าเชื้อที่มีประสิทธิภาพสูงอย่างกลูตารัลดิไฮด์ (Glutaraldehyde) และสารอื่น ๆ ตามสูตรของแต่ละที่ โดยควรมีการรับรองคุณภาพจาก อย. เพื่อให้มั่นใจว่าน้ำยาฆ่าเชื้อเหล่านั้นเหมาะสมกับการนำมาใช้งานในพื้นที่พักอาศัยได้อย่างปลอดภัย สำหรับน้ำยาฆ่าเชื้อโรคจะมีกลไกการทำลายเชื้อไวรัสคือเมื่อน้ำยาสัมผัสกับเชื้อโรคจะเข้าไปละลายไขมันในผนังเซลล์ หรือทำให้โปรตีนและกรดนิวคลิอิกของไวรัสเสียสภาพไป ซึ่งสารฆ่าเชื้อจะออกฤทธิ์ได้ดีนั้น ต้องทำความสะอาดพื้นผิวก่อน ข้อดีการพ่นฆ่าเชื้อ คือ สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ตรงจุด เข้าถึงพื้นที่ที่ต้องการได้ละเอียดกว่า และสามารถคงประสิทธิภาพได้ยาวนานกว่า
การฆ่าเชื้อไวรัสด้วยแสง UV แบ่งออกเป็นแสง UV จากธรรมชาติ และแสง UV สังเคราะห์ สำหรับการฆ่าเชื้อไวรัสด้วยแสง UV จากธรรมชาตินั้นสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการเปิดหน้าต่างรับแสงแดดเข้าสู่ตัวบ้าน ซึ่งนอกจากจะช่วยฆ่าเชื้อต่าง ๆ แล้ว ยังเป็นการระบายอากาศและลดกลิ่นอับ กลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ ส่วนการใช้แสง UV สังเคราะห์ที่เหมาะสม คือ คลื่น UV-C ที่มีความยาวคลื่น 253.7 nm ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่ามีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อจุลินทรีย์ เช่น แบคทีเรีย ยีสต์ เห็ดและรา รวมถึงไวรัสชนิดที่เป็น DNA และ RNA ที่ปะปนอยู่ในอากาศ พื้นผิว วัตถุ และน้ำ สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ วิธีการก็ไม่ยุ่งยาก แค่ฉาย UV- C ลงบนวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อทำการฆ่าเชื้อโรค ซึ่งแสง UV-C จะเข้าทำลาย DNA ของเชื้อ ทำให้ไม่สามารถแพร่กระจายได้ ปัจจุบันการฉายแสง UV-C มีอุปกรณ์ติดตั้งและหาซื้อได้ง่าย รวมถึงมีแบบพกพาซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกได้เป็นอย่างดี แต่ต้องระมัดระวังในการฉายแสงเนื่องจากมีผลกระทบต่อร่างกาย
นอกจากการดูแลและทำความสะอาดพื้นที่ต่าง ๆ ภายในบ้านให้ปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอแล้ว หากจำเป็นต้องออกนอกบ้านจริง ๆ เมื่อกลับถึงบ้านแล้วก็ควรล้างมือ ทำความสะอาดร่างกาย และเปลี่ยนเสื้อผ้าทุกครั้งเพื่อลดการสะสมของเชื้อโรคและป้องกันคนในบ้านให้ห่างไกลจากโรคร้ายให้มากที่สุดเพื่อให้คุณและทุกคนในครอบครัวมีสุขภาพกายและใจที่ดีไปพร้อม ๆ กัน
ติดต่อสอบถามข้อมูล บริการรับออกแบบสร้างบ้านกับ AWII House ได้ที่
อีเมล: info.support@awiihouse.com
เว็บไซต์: awiihouse.com
โทร. 0 2026 3213 และ 09 5881 7887