ในการแสวงหาการสร้างบ้านที่มีนวัตกรรมและความยั่งยืน สถาปนิกและนักออกแบบจึงต่างหันมาหาแรงบันดาลใจจากธรรมชาติมากขึ้นเรื่อย ๆ การเลียนแบบชีวภาพในสถาปัตยกรรมเป็นวิธีการที่ก้าวล้ำที่ใช้ประโยชน์จากการออกแบบ ระบบ และกระบวนการต่าง ๆ ของธรรมชาติ เพื่อสร้างบ้านที่ไม่เพียงแต่มีความสวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีความยืดหยุ่นอีกด้วย ด้วยการเรียนรู้จากภูมิปัญญาของธรรมชาติ สถาปนิกสามารถออกแบบบ้านที่เป็นนวัตกรรมใหม่และยั่งยืน ซึ่งเลียนแบบความสามารถในการปรับตัวและความงามที่พบได้ในโลกธรรมชาติ เราจึงจะพาไปสำรวจแนวคิดของสิ่งที่เรียกว่า Biomimicry ในสถาปัตยกรรม หรือ การเลียนแบบธรรมชาติที่กำหนดอนาคตของการออกแบบบ้านที่ยั่งยืน
Biomimicry มาจากคำว่า “Bios” ในภาษากรีก ที่แปลว่าชีวิต และ “Mimesis” ที่แปลว่า การเลียนแบบ Biomimicry จึงหมายถึง กระบวนการที่มนุษย์ลอกเลียนแบบธรรมชาติในทุกลักษณะ ไม่ว่าจะเป็นทางกายภาพหรือรูปแบบ (models) ระบบ (systems) หรือองค์ประกอบ (elements) เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในทุกแขนงของสาขาวิชาการออกแบบ เช่น การออกแบบอุตสาหกรรม การออกแบบภายใน การออกแบบสถาปัตยกรรม ตลอดจนถึงการสร้างสภาพแวดล้อมในรูปแบบเมือง โดยการนำแนวคิดนี้มาผนวกเข้ากับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สร้างโอกาสในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างมากมาย เพื่อเพิ่มคุณค่าและส่งเสริมสิ่งดี ๆ ที่มีประโยชน์ให้กับมนุษย์และโลกใบนี้อย่างยั่งยืน
ธรรมชาติมีรูปแบบและโครงสร้างต่าง ๆ มากมายที่สามารถเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบสถาปัตยกรรม ตัวอย่างเช่น รูปแบบการแตกกิ่งของต้นไม้ ไปจนถึงโครงสร้างของรังผึ้ง สถาปนิกสามารถดึงแรงบันดาลใจจากรูปทรงเหล่านี้ของธรรมชาติและรวมเข้ากับการออกแบบได้ ดังนั้น การที่สถาปัตยกรรมเลียนแบบชีวภาพโดยการดึงเอาคณิตศาสตร์ในธรรมชาติ องค์ประกอบของธรรมชาติ และรูปร่างตามธรรมชาติมานั้น ทำให้ได้บ้านที่สวยงามตระการตาและมีเอกลักษณ์ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ
ธรรมชาติได้พัฒนาระบบที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนให้สมบูรณ์แบบอยู่ตลอดหลายล้านปีของวิวัฒนาการ สถาปนิกจึงสามารถศึกษาและจำลองระบบเหล่านี้ในการออกแบบบ้าน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การระบายอากาศ และการควบคุมสภาพอากาศ ตัวอย่างเช่น สถาปนิกอาจเลียนแบบวิธีที่จอมปลวกใช้เทคนิคการทำความเย็นแบบพาสซีฟ (Passive Cooling) หรือออกแบบอาคารที่มี Facade หรือส่วนหน้า ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ ซึ่งตอบสนองต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ที่ซึ่งคล้ายกับพฤติกรรมของใบพืชนั้นเอง
สถาปนิกสามารถเรียนรู้บทเรียนอันมีค่าจากกลยุทธ์ของธรรมชาติด้วยการสังเกตว่าระบบนิเวศหมุนเวียนและอนุรักษ์ทรัพยากรมีประสิทธิภาพได้อย่างไร ตัวอย่างเช่น บ้านเลียนแบบชีวนิเวศอาจรวมระบบการเก็บเกี่ยวน้ำฝนที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความสามารถในการอุ้มน้ำของพืช หรือใช้เทคนิคการออกแบบพลังงานแสงอาทิตย์แบบ Passive เพื่อเพิ่มแสงธรรมชาติและลดการใช้พลังงาน
การเลียนแบบทางชีวภาพในสถาปัตยกรรม มีศักยภาพอย่างมากสำหรับการออกแบบบ้านที่เป็นนวัตกรรมและมีความยั่งยืน ด้วยการเรียนรู้จากรูปแบบ ระบบ และองค์ประกอบต่าง ๆ ของธรรมชาติ สถาปนิกสามารถสร้างบ้านที่ไม่เพียงแต่โดดเด่นสะดุดตา แต่ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีความยืดหยุ่นอีกด้วย สถาปัตยกรรมเลียนแบบชีวภาพนำเสนอเส้นทางสู่อนาคตที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น ให้อาคารต่าง ๆ ผสานเข้ากับโลกธรรมชาติได้อย่างราบรื่นและปรับการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด การเลียนแบบทางชีวภาพจึงเป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการสร้างบ้านที่กลมกลืนกับธรรมชาติ ส่งเสริมความยั่งยืน และเพิ่มความเป็นอยู่ที่ดีของทั้งผู้อยู่อาศัยและโลกใบนี้ เริ่มเดินทางไปกับประสบการณ์สร้างบ้านที่ไม่เหมือนใคร อีกทั้งยังรักสิ่งแวดล้อมไปกับ AWII House เพราะเราไม่ได้ใส่ใจแค่คุณแต่รวมไปถึงสิ่งแวดล้อม เราสร้างบ้านบนหลักการของธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และ บริบทการใช้ชีวิตของแต่ละครอบครัวที่แตกต่างกัน จนผลึกออกมาเป็นบ้านเฉพาะคุณ เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคุณตั้งแต่ปัจจุบันไปสู่อนาคต